ห้องที่ ๑๑๒ : หลวงภาษีวิเศศ


           พระยาพิเภกได้สดับสาร
กฤษณุราชวโรงการโปรดเกล้า
ทรงยศมิ่งเมืองมารหมตมอบ ตนนา
แสนกระเษมสร่างเศร้าสดุดิน้อมทูลสนอง
          ฃอเดชธเรศไท้ทวิดิ์วงษ
ซึ่งพระราชประสงค์เศกเข้า
สืบสวัสดิ์ฃัติยพงษพรหมเมศ
ฃอบพระคุณท่วมหล้าเลิศล้ำแดนไตร
          ฃ้าบาทอำนาจน้อยนฤฤทธิ์
สมเด็จพระจักรกฤษณกลับแล้ว
เกลือกพวกอสุรมฤษสยาสัตย
จักอุกอาจกาจแกล้วกลับรื้อรำบาน
          จักฃายเรณุรัชเบื้องบทมาลย์
ฃอพระเดชาวตารต่อต้งง
ขจัตอุปัทวไภยพาลผรุษอยาบ คายเฮย
ด้วยพระเกรียติกางกั้งเกษฃ้าฃาดเข็ญ
          หริวงษทรงสดับสิ้นคำอสูร ตรัสแฮ
ว่าพิเภกกราบทูลถูกต้อง
สมบัติย่อมเปนมูลมหายุทธ เหตุเฮย
ทรงพยักพระภักตร์พร้องเพริดพริ้มพลางสรวล
          พิเภกสบช่องแล้วทูลลา
จากสุวรรณพลับพลาที่เฝ้า
พาแสนสุรเสนานิวัดนิเวศน์ เวียงเอย
โดยสุภาพกราบเท้าลุท้องพระโรงเสถียร
          ขึ้นสถิตยเหนือแท่นท้องมณเฑียร
หมู่พระญาติมาตยเดียรดาษน้อม
เบาบางว่างตาเตียนตายหมด ไปฤๅ
ที่อยู่ก็แก่ง้อมหง่อมเถ้าทุรพล
          เสียดายพระญาติเชื้อชาญสมร
เสียพยุหแสนยากรแกว่นแกล้ว
เสียหมดคชอัศดรเรืองเดช
เสียพระชนม์พระเชษฐแล้วอนาถท้อใจถวิล
          ลงกาในก่อนโพ้นไพบูลย์
เมือบญาติมาตยาสูรสืบเชื้อ
พรหมธิราชภายูรจากจักร วาฬแฮ
มาสู่ลงกาเมื้อมอดสิ้นสงสาร
          เพราะเชษฐอาสัตยให้ไภยถึง
พาญาติมิตรคิดตบึงบุ่มบ้า
ตายในหว่างศึกรึงรุมร่วม ร้ายเฮย
เชิดชั่วไปกราบหล้าแหลกสิ้นฤๅสูญ
          คิดพลางทางตรัสถ้อยบัณทูล
แด่พระวงษตระกูลกล่าวเกลี้ยง
เปิดทรัพยจับแจกปูนบำเหน็จ ทั่วนา
ที่พิการแก่เลี้ยงลูบเล้าเอาใจ
          ปราใสสุนทรเหล่าท้าวพระยา
ตั้งแต่งตามคุณานุยศย้อม
ละโลภโอบโอพาชิตชอบ
ประสาศน์สาสน์หว่านล้อมหล่อเลี้ยงโดยธรรม์
          ตรัสถามความไพร่ฟ้าสากล
ไพร่ราบหลาบศึกซนซ่อนเร้น
มูลนายติดตามปรนปรือปลอบ มานา
ส่วยสัดพิพัฒเว้นว่างใช้การเกณฑ์
          หมู่มหันตโทษไว้ชีวัน
ผ้าผ่อนอาหารปันอิ่มท้อง
โทษโทโทษตรีผันภาคโทษ ไปแฮ
ความเทลาะวิวาทร้องเล็กน้อยประนอมเสีย
          ประภาษราชกิจถ้วนทุกกรม
โดยฃัติยสมาคมสืบเค้า
ท่ามกลางมาตโยดมเดียรดาษ
พระราชปรารภเร้าเรืองม้วยรายเมรุ
          เปาวนาสูรท่านผู้เจริญสวัสดิ์
จงจัตการเมรุรัตนยอตห้า
โดยยศศภจักรพรรติผดุงทวีป
เกณฑ์ทั่วจงทุกหน้าถี่ถ้วนรดมทำ
          เปาวนาสูรราพก้มเกษา
รับสั่งองค์อสุราราชไท้
ออกจากพระโรงมายังที่ พักแฮ
หมายสั่งกรมวังให้ทราบสิ้นตามกระแส
          กรมวังหมายสั่งข้าราชการ
ถ้วนทั่วทุกพนักงานใหญ่น้อย
พลเรือนฝ่ายกรมทหารหัวหมื่น พันแฮ
หมายกระจัตชัดถ้อยถี่ถ้วนทุกกรม
          กรมการเกณฑ์ส่งไม้แผงเสา
กรมช่างถากใสเกลากล่อมเกลี้ยง
กรมเมืองทุบปราบเหลาผูกจัก สารแฮ
กรมวิเสศจ่ายเลี้ยงฬ่อน้ำใจงาน
          แม่กองกะที่ต้งงตามขบวน
ตัวอย่างวางกระสวนสอบชั้น
ตำรวจสีหมวดมวนนายละ มุขเฮย
มุขฝ่ายตวันตกนั้นใหญ่ซ้ายนายการ
          ใหญ่ขวาตราตรวจด้านอุดร
องครักษในขวาตอนทิศใต้
ประกวจประชันกรการเร่ง รัดแฮ
ตะวันออกในซ้ายได้ว่าด้านโดยเกณฑ์
          ปรุงปรับจับนั่งร้านรองหลุม
ยกสี่เสาเอกคุมเครื่องพร้อม
ชักมุขจัตุรารุมรวบยอด ปรางแฮ
มุงเสร็จดาษสีย้อมยกชั้นนพสูญ
          ภายในเมรุใหญ่พื้นไพศาล
มีแท่นเมรุทองถานแว่นฟ้า
เรียงรายเครื่องสูงกาญจโนภาษ
ราชวัชฉัตรแก้วรย้ารยับเพี้ยงไพชยนต์
          การเมรุในนอกนั้นสรรพครบ
ตามอย่างพระบรมศภเสร็จพร้อม
พนักงานจัตขบวนผจบแจกเซื่อ หมวกเฮย
ราชรถเทียบเกยน้อมนอบท้าวทูลการ
          รุ่งแสงรังษิตแผ้วกลางโพยม
พิเภกทรงเศวตโฃมพัตรพื้น
เสด็จไปที่ประโคมเคียงพระโกฏ
ทรงสั่งพระศภสอื้นอนาถท้อพระไทยหาย
          สงสารเสียงโศกแส้ปรางศรี
นาเรศรุมรันตีอกร้อง
พนักงานยกโกฏลีลาศสู่ เกยแฮ
กองจัตพลแห่จ้องจับริ้วเรียงแถว
          ให้เชิญพระโกฏเจ้ากรุงมาร
ขึ้นสู่บุษป์บกกาญจน์รถแก้ว
ท้าวเสด็จสู่ราชยานโบกหัดถ์
กลองชนะปี่ไฉนแจ้วโจ่งคฤมเสียงฃาน
          เดินขบวนพยุหบาตรซ้อนสามสาย
ต้นเชือกโบกธงชายเชิตช้อย
รถโยงรถจันทนรายเปนเรบียบ ไปแฮ
พลแห่กองหน้าคล้อยรถเมื้อลานเมรุ

จบห้องที่ ๑๑๒

  เนื้อความกล่าวถึงพิเภกทูลว่าตนมีอำนาจน้อย เกรงว่าเมื่อพระรามยกทัพกลับไปแล้ว เหล่ายักษ์จะแข็งข้อ จึงขอให้พระรามปกป้องด้วย พระรามตรัสว่าสมบัติเป็นมูลเหตุแห่งสงคราม พิเภกทูลลาพระรามกลับกรุงลงกา แล้วปูนบำเหน็จถ้วนหน้ากัน แล้วสั่งให้เปาวนาสูรจัดเตรียมพิธีพระศพทศกัณฐ์

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เศกข้า”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เรื่องม้วยรายเมรุ”